สำหรับในโลกที่เทคโนโลยีก้าวไกลไปมากในปัจจุบัน คงไม่มีใครไม่เคยใช้งานเว็บไซต์ (Website) อย่างแน่นอน โดยประโยชน์ของการใช้งานเว็บไซต์ตั้งแต่แรกก็คือการนำเสนอข้อมูลให้ผู้ใช้งานได้เข้ามาอ่านผ่านการค้นหาบน Search Engine แต่ความจริงแล้ว เว็บไซต์ไม่ได้มีแค่ประเภทเดียวเท่านั้น แต่ยังมี Web Application ที่เป็นประเภทเว็บไซต์ที่มีคนใช้งานกันเยอะมากที่สุด แล้ว Web Application นี้ มีความแตกต่างจากเว็บไซต์ธรรมดาทั่วไปอย่างไร บทความนี้ มีคำตอบครับ
Web Application คืออะไร?
Web Application คือ เว็บไซต์ที่มีลักษณะเหมือนหน้าเว็บไซต์ทั่วไป แต่มีฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลายโดยเป้าหมายคือการให้ผู้ใช้งานได้ ‘ใช้งาน’ เว็บไซต์จริง ๆ เช่น Web Application สำหรับคิดเลข จับเวลา แปลภาษา หรือใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับคนทั้งโลก เช่น เว็บไซต์ Social Media ยอดฮิต อย่าง Facebook, Twitter ฯลฯ หรือแม้แต่เว็บไซต์ E-Commerce ที่ทุกคนใช้งานกันบ่อยจนแทบจะเป็นตลาดใกล้บ้านคุณ เช่น Shopee หรือ Lazada และอีกมากมาย เว็บไซต์เหล่านี้ก็คือ Web Application เช่นกันครับ
ข้อดีของ Web Application คือ ถ้าเป็นเมื่อก่อน การเข้าใช้งานโปรแกรมใด ๆ จำเป็นที่จะต้องติดตั้งโปรแกรมนั้น ๆ ลงในคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ของคุณก่อน แต่สำหรับ Web Application คุณสามารถเปิดใช้ผ่าน Web browser ได้เลย เพราะตัวเว็บไซต์สามารถปรับให้เข้ากับหน้าจอและอุปกรณ์ต่าง ๆได้ อีกทั้งยังมีทรัพยากรที่น้อย ทำให้โหลดไว ใช้งานได้ง่าย เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน (user-friendly)
แตกต่างจากเว็บไซต์ธรรมดาอย่างไร?
ความแตกต่างของเว็บไซต์ธรรมดาทั่วไป คือการทำงานของมันครับ เว็บไซต์ธรรมดา หรือ Static Website จะทำได้แค่เพียงแสดงข้อมูลให้ผู้ใช้งานอ่าน ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ผู้รับสารเฉย ๆ เท่านั้น แต่สำหรับความพิเศษของ Web Application คือการที่ผู้อ่านเองสามารถ ‘ใช้งาน’ และโต้ตอบกับมันราวกับ Two Way Communication เช่น โพสต์ข้อความ อัปโหลดรูปภาพและวิดีโอ หรือแม้แต่การแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ก็เช่นกัน
Web Application มีกี่ประเภท?
Web Application เองก็มีหลายประเภทเช่นกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานและการสื่อสารของผู้สร้าง โดยเราจะยกเว็บแอปที่คนไทยใช้งานเยอะ ๆ มาอธิบายให้ฟังกันครับ
- Web Portal
Web Portal คือเว็บไซต์ที่มีไว้เพื่อลงเนื้อหา (Content) ข่าวสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ มีการจัดหมวดหมู่ที่เป็นระเบียบ แต่ก็มีฟังก์ชั่นการใช้งานสำหรับผู้ใช้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ธนาคาร ที่ในเว็บมีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการลงทุน เงินฝาก เงินกู้ หรืออะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับการบริการของธนาคาร แต่ผู้ใช้ก็สามารถเปิดบัญชีผ่านเว็บไซต์ได้ โอนเงินผ่านเว็บไซต์ได้ และอื่น ๆ อีกมากมาย
- E-commerce & Food delivery service
E-commerce คือ เว็บแอปสำหรับซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์ที่แทบจะเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจในปัจจุบัน คุณสามารถลงทะเบียน เพื่อเปิดร้านขายของ หรือลงทะเบียนเพื่อไปซื้อของในเว็บไซต์เหล่านั้น พร้อมโอนเงินเสร็จสรรพเรียบร้อยในเว็บไซต์เดียว โดยระบบของเว็บแอปนี้จะต้องมีการรวมส่วนประกอบต่างๆเข้าด้วยกัน เช่น ฐานข้อมูลของสินค้าของขนส่งโลจิสติกส์ ระบบการชำระเงินที่มีความปลอดภัย และอื่น ๆ จึงเป็นเว็บแอปที่ค่อนข้างซับซ้อนแต่ก็แลกมาด้วยความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งาน
หากจะดูว่า การมี Web Application สำคัญต่อธุรกิจของคุณหรือไม่ ก็ต้องดูที่เป้าหมายในการทำธุรกิจของคุณว่าเป็นอย่างไร หากต้องการเพียงแค่เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับธุรกิจของคุณเท่านั้น คุณก็สามารถสร้างเว็บไซต์แบบธรรมดาได้ แต่ถ้าหากอยากให้ลูกค้าได้เข้ามา ‘ใช้งาน’ เว็บไซต์ของคุณจริง ๆ ก็เตรียมวางแผนพัฒนา Web Application กับเราได้เลยครับ