SEO คืออะไร? สำคัญอย่างไรต่อธุรกิจ บทความนี้มีคำตอบ

สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์ มักที่เคยได้ยินคำว่า SEO กันมาบ้างใช่ไหม เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญของการทำธุรกิจออนไลน์หรือเว็บไซต์ เพราะ SEO คือ การทำให้ข้อมูลข่าวสารของธรุกิจหรือเว็บไซต์ ที่ต้องการนั้นติดหน้าค้นหาของ Google เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้ลูกค้ามองเห็นได้เยอะขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นการทำให้ SEO ติดหน้าแรกของค้นหา Google ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายและไม่เชิงยาก ขึ้นอยู่กับเทคนิคกลยุทธ์ของธุรกิจที่เราใช้ วันนี้ Criclabs จะมาเล่าถึง ขั้นตอนการทำ SEO อย่างละเอียด เทคนิคและความสำคัญของ SEO ที่มีต่อธุรกิจ

‍ชวนทำความรู้จัก SEO คืออะไร ทำไมต้องทำ?

SEO หรือที่เรียกชื่อเต็มว่า  Search Engine Optimization คือ การเขียนเนื้อหา ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและสินค้าขึ้นมาใหม่ ลงบนเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้แสดงอันดับต้นๆ ในหน้า Search Google โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การที่จะทำให้เว็บไซต์ติดหน้าค้นหานั้นขึ้นอยู่กับ Keyword หรือคำค้นหาที่เลือกใช้ จำเป็นต้องเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น คุณทำธุรกิจเกี่ยวกับชุดว่ายน้ำ ดังนั้น Keyword ที่ต้องใช้เพื่อให้ธุรกิจของคุณแสดงโชว์บนหน้า Search Google ต้องมีคำว่า ชุดว่ายน้ำ ผลลัพธ์ของการทำ SEO ที่ดี ควรให้ธุรกิจหรือสินค้าอยู่หน้าแรกของ Google  แต่ไม่ควรเกินหน้าที่ 2 ยิ่งอยู่อันดับต้นๆ เท่าไหร่ การเข้าถึงเว็บไซต์ก็จะสูงขึ้นเท่านั้น

‍การวางกลยุทธ์คำ Keyword คืออะไร จะรู้ได้ไงว่า Keyword  นั้นดี?

Keyword คือ คำที่คนใช้ค้นหาบน Google เพื่อต้องการคำตอบหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ตามความต้องการของบุคคลนั้น ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องการรู้ข้อมูลร้านกาแฟที่สามารถนั่งทำงานได้ เปิด 24 ชั่วโมง ติดรถไฟฟ้า จึงนำความต้องการนี้เข้าไปค้นหาที่  Google ด้วยคำว่า “ ร้านคาเฟ่เปิด 24 ชั่วโมง ติดรถไฟฟ้า” ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า Keyword 

‍Keyword สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท ดังนี้

1. Mass Keyword คือ คำที่กำหนดขึ้นมาเป็นคำค้นหาหลักของธุรกิจหรือสินค้า โดยเป็นคำที่สื่อความหมายกว้างๆ ไม่เฉพาะเจาะจง อาจจะเป็นคำที่มีปริมาณค้นหาสูง เพื่อเป็น Keyword ตั้งต้น

2. Niche Keyword คือ คำที่กำหนดเอาไว้เพื่อมาขยายความของ Mass Keyword มีความเจาะจงคำมากขึ้น โดยปริมาณการค้นในหน้า Search Google ไม่มาก แต่สามารถทำให้ธุรกิจและสินค้าติดหน้า Google

3. Longtail Niche Keyword คือ คำที่กำหนดเอาไว้เฉพาะเจาะจง เน้นขายสินค้าหรือบริการธุรกิจของคุณ  เพื่อแสดงให้คนที่ต้องการสินค้าหรือบริการนั้นๆ เข้ามาค้นหาโดยตรง

ความสำคัญของการทำ SEO แบบละเอียด มีเทคนิคหรือขั้นตอนการทำอย่างไร 

เชื่อว่าเป็นสิ่งที่หลายคนคงกำลังสงสัยกันใช่ไหม? ว่าการทำ SEO นั้นมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน ทำไมหลายธุรกิจจึงเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งนี้กันมากขึ้น Criclabs จะมาเล่าถึงความสำคัญของการทำ SEO ให้เข้าใจง่ายๆ เพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

จากตัวเลขสำรวจของ Google Search Statistics จะเห็นว่าในหนึ่งวันมีคนเข้ามาค้นหาความต้อการต่างๆ ที่ Google กันมากกว่า 3,000-4,000 ล้านครั้งต่อวัน หรือ จากผลสำรวจของ Highervisibility  พบว่า พฤติกรรมของคนที่เข้ามาค้นหาหรือ Search Google 95% มักจะคลิกเว็บไซต์ที่แสดงอยู่หน้าแรกของ Google และ 32%เลือกคลิกเว็บไซต์ที่ขึ้นอยู่อันดับหนึ่งในหน้าแรกของ Google ซึ่งแน่นอนว่า การทำ SEO นั้นจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้นหรือหน้าแรกของ Search Google เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น เกิดเป็นยอดขายสินค้าหรือบริการ ยิ่ง SEO ดีเท่าไหร่ อันดับเว็บไซต์ก็จะสูงขึ้น 

‍เทคนิคของการทำ SEO แบบละเอียดนั้น ได้แก่

1.การเลือก Keyword ที่ดี ตรงต่อพฤติกรรมของลูกค้า

2.เนื้อหาหรือบทความบนเว็บไซต์ ต้องมีประโยชน์และเขียนขึ้นใหม่

3.เนื้อหาหรือบทความบนเว็บไซต์ สามารถแชร์ออกไปยังช่องทาง Social Media  ต่างๆ ได้

4.เว็บไซต์มีการประมวลผลที่เร็ว เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์เชิงบวกในการเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ

5.การจัดวางองค์ประกอบของเว็บไซต์ สวยงาม ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน

‍เป้าหมายของการทำ SEO ในแต่ละธุรกิจ 

1. เพิ่มโอกาสทางการตลาด คือ การเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้รู้จักสินค้าหรือเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น โดยการทำ SEO ให้หน้าเว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ ของ Google นั้น ไม่เสียค่าใช้จ่าย เมื่อมีลูกค้าเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์มากขึ้น นำไปสู่การเกิดการซื้อขายสินค้า การเพิ่มยอดขาย

2. โฆษณาสินค้าหรือบริการ การทำ SEO นอกจากจะเป็นตัวช่วยให้เรื่องเพิ่มโอกาสทางการตลาดเกิดยอดขายสินค้าหรือบริการแล้ว ยังเป็นเหมือนการโปรโมทสินค้า บริการ ตลอดเวลาอีกด้วย ทำให้สินค้าและบริการของคุณน่าเชื่อถือ แบรนด์เป็นที่รู้จักจดจำของลูกค้าได้

3. เพิ่ม Traffic ให้เว็บไซต์ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญของการทำ SEO เพื่อให้คนอื่นๆ หรือกลุ่มลูกค้าเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณมากขึ้น ทำให้สินค้าและบริการของคุณ เป็นที่รู้จักนั้นเอง

4. สร้างความน่าเชื่อถือให้เว็บไซต์ เพราะการทำ SEO นั้นกว่าจะติดอันดับหน้าค้นหาแรกๆ ของ Google จะต้องผ่านการให้คะแนนว่าเป็น Website Friendly มีข้อมูลน่าเชื่อถือ จาก Google ทำให้ลูกค้ามั่นใจต่อเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น

‍ข้อดีและข้อจำกัดของการทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ธุรกิจ

‍ข้อดีของการทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ธุรกิจ มีดังนี้

• ประหยัดงบประมาณแต่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ ซึ่งการทำ SEO เปรียบเสมือนการทำโฆษณาอย่างหนึ่ง เพื่อให้สินค้าหรือบริการแสดงอยู่หน้าแรกของการค้นหาบน Google โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่สามารถทำให้ลูกค้าเห็นสินค้าหรือบริการของคุณได้มากขึ้น

• ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้าและเว็บไซต์ การทำ SEO เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือสำคัญของธุรกิจ ที่มีคู่แข่งมากมายในการทำ SEO นี้ ยิ่งถ้าเว็บไซต์ของขึ้นอยู่หน้าแรกของ Google ได้ ยิ่งจะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าและบริการมากเท่านั้น

• ช่วยให้เกิด Repeat Business มากขึ้น เพราะ ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาแบบออแกร์นิกจาก Search Engine โดยส่วนมากจะใช้บริการเว็บไซต์ของคุณในระยะเวลาที่ยาวนาน

• สร้างความได้เปรียบต่อการแข่งขันกับคู่แข่ง การทำ SEO ถือเป็นเครื่องมือที่ได้เปรียบคู่แข่ง ยิ่งอันดับเว็บไซต์ของคุณอยู่อันดับต้นๆ ที่หน้า Search Engine มากเท่าไหร่ ก็ย่อมได้เปรียบคู่แข่งมากเท่านั้น 

ข้อจำกัดของการทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ธุรกิจ ดังนี้

• Algorithm ของ Search Engine มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ตามระบบและเงื่อนไขของ Google ทำให้เราไม่สามารถกำหนดการแสดงผลเว็บไซต์บนหน้าแรกของ Search Google จึงต้องมีการเขียนข้อมูลข่าวสาร อัปเดต Keyword ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

• การหาผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO ค่อนข้างยาก เนื่องจากการทำ SEO นั้นจะต้องเลือกKeyword ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งคนที่รับทำ และ มีวิธีทำ SEO อย่าง ละเอียด แล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นค่อนข้างมีน้อย

• เวลาในการแสดงผลหน้าแรกของ Search Google นั้นต้องใช้เวลานาน กว่าอันดับเว็บไซต์ของเราจะติดหน้าแรก  Search Google  ขึ้นอยู่กับการเก็บข้อมูลของ Algorithm ด้วย

ปัจจัยที่ส่งต่อการทำ SEO เว็บไซต์ 

โครงสร้างและความปลอดภัยของเว็บไซต์ ระบบของ Google จะมีสิ่งที่เรียกว่า bot เอา

ไว้คอยเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ อยู่ตลอดเวลา การที่เรามีโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดี การจัดวางองค์ประกอบอย่างเป็นระเบียบ ทำให้ bot ไม่สับสนเวลาเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ ช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ได้คะแนนตามเกณฑ์ของ Google และขึ้นอยู่อันดับต้นๆ Search Google

‍ความเร็วในการโหลด เป็นเรื่องที่ Google ให้ความสำคัญอันดับต้นๆ เพื่อหลีกเลี่ยง

ประสบการณ์ที่ไม่ดีของผู้ใช้บริการเมื่อเข้ามาค้นหาข้อมูลใช้งานเว็บไซต์ ยิ่งเว็บไซต์มีความเร็วเสถียรคงตัว ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ติดหน้าแรก Google  มากขึ้น

‍Mobile Friendly  คือ การที่เว็บไซต์รองรับการใช้งานได้ทั้ง Desktop และ Mobile เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน ช่วยให้ได้คะแนนที่ดีจาก Google  

‍Domain Authority จากผลการข้อมูลของสถิติเว็บไซต์ที่ติดอันดับต้นๆ ของ Search 

Engine จะมีอายุการใช้งานของ Domain กว่า 3 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับการทำตามเงื่อนไขของ Google  

ด้วย

‍คุณภาพของบทความและเนื้อหา การทำเนื้อหาหรือที่เรียกอีกอย่างว่า Content จะต้อง

มี Keyword ซึ่งเป็นคำที่ตรงกับการค้นหาของลูกค้า ซึ่งเนื้อหาในการเขียนบทความไม่ควรสั้นจนเกินไป ต้องเป็นบทความที่เขียนขึ้นมาใหม่เท่านั้น และ Keyword จะต้องไม่ซ้ำกันจนเกินไป ไม่อย่างนั้นจะส่งผลให้เว็บไซต์ถูกสแปม

‍User Experience / ประสบการณ์การใช้เว็บไซต์ อีกหนึ่งเครื่องมือที่ Google ใช้ในการ

ประเมิน วัดผลเว็บไซต์ว่าน่าสนใจหรือเปล่า คือ Bounce Rate เป็นอัตราการกดออกจากหน้าเว็บไซต์ ยิ่งมีอัตราการกดออกน้อยเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เปอร์เซนต์ความน่าสนใจของเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้น

‍Inbound Links / Internal Links คือ ลิงก์ URL ต่างๆ บนเว็บไซต์ หรือ Internal Links 

เป็น URL ที่ลิงก์กันจากเว็บไซต์อื่นๆ ยิ่งเว็บไซต์อื่นนำลิ้งก์ URL ของ เว็บไซต์คุณไปไว้ในบทความของเขาด้วย ยิ่งจะเพิ่มคะแนน SEO ให้เว็บไซต์ของคุณ

‍Social Media Signals ในที่นี้หมายถึง Traffic ของคนที่เข้ามา การกดไลค์ กดแชร์ ลิงก์ข้อมูลข่าวสาร บทความ หน้าเว็บไซต์ของคุณจากช่องทาง Social Media ต่างๆ เช่น Facebook, Twitter,ฺBlog เป็นต้น จะช่วยเพิ่มคะแนนให้ติดอันดับหน้าค้นหาของ Google ได้อย่างรวดเร็ว

‍Technical SEO คือ Domain, Meta Robots Tag และอีกมากมาย ถือเป็นส่วนสำคัญของการทำ SEO ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับบนหน้า Google ได้ 

‍ลิสต์สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับ SEO ก่อนการทำ SEO อย่างละเอียด

1. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Search Engine ว่าคืออะไร ถือเป็นขั้นตอนพื้นฐานของการทำ SEO ต้องเข้าใจถึงกระบวนการทำงานของ Search Engine ว่าคืออะไร ซึ่ง Search Engine นั้น เป็นโปรแกรมที่ใช้ค้นหาคำต่างๆ ตามควาต้องการของคน โดยจะเก็บรวบรวมข้อมูลเอาไว้ ว่ามีคำหรือคีย์เวิร์ดไหน ที่ถูกนิยมค้นหามาหที่สุด 

จุดประสงค์ เพื่อทราบถึง Keyword ของถูกค้นหา ใช้ในการทำ SEO และ ที่จะเข้าใจการทำงานของ Google มากขึ้น ส่งผลให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆของหน้า  Google ได้นั้นเอง  หลักการทำงานของ Search Engine คือ การส่ง Crawler หรือที่เรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่า Bot เข้าไปตามเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลของเว็บไซต์ ทั้ง URL ชื่อหัวข้อบทความ เนื้อหา รูปภาพ โดยนำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลผลและจัดอันดับของหน้าเว็บไซต์ ยิ่ง Keyword ที่เราเลือกใช้ตรงตามการค้นหาของลูกค้า  Search Engine ก็จะเก็บรวบรวมข้อมูลและจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณให้อยู่อันดับต้นๆ ของหน้า Google 

2. เข้าใจความต้องการของลูกค้าและเลือก Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของเว็บไซต์

Keyword หรือ Keyword Research เปรียบเสมือนเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่าลูกค้าและเว็บไซต์ของเรา โดยการเลือก Keyword ต้องเป็นคำที่ตรงต่อพฤติกรรมการค้นหาบน Google ของลูกค้ามากที่สุด จุดประสงค์ เพื่อเพิ่มผลลัพทธ์ที่ดีในการทำ SEO มากขึ้น 

3. Content บนเว็บไซต์ หรือ เนื้อหาที่ปรากฎบนเว็บไซต์ของคุณ จะต้องเป็นเนื้อหาที่เขียนขึ้นมาใหม่ สอดแทรก Keyword ที่ตรงต่อพฤติกรรมการค้นหาของลูกค้าในเนื้อนั้นด้วย แต่อย่ามากจนเกินไปไม่อย่างนั้นเว็บไซต์อาจโดน Spam จุดประสงค์ เพื่อให้ลูกค้าใช้เวลาอยู่บนหน้าเว็บไซต์ของคุณได้นานที่สุด และเพื่อติดอันดับบนหน้า  Google ด้วย 

4. เว็บเพจมีองค์ประกอบที่ดี คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้ SEO มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะต้องกำหนดจุดประสงค์ของเว็บไซต์ว่าทำขึ้นมาเพื่ออะไร ยกตัวอย่างเช่น ขายสินค้า สื่อสารให้คนรู้จักมากขึ้น และโครงสร้างของเว็บไซต์ใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน จุดประสงค์เพื่อเพิ่มคะแนนให้กับเว็บไซต์ เวลาที่ Google ส่ง Bot เข้ามาดูข้อมูลของเว็บนั้นเอง

5. ทำ Link Building, Backlink  ซึ่งการทำ Link Building หรือ Backlink  เป็นวิธีที่ทำให้เว็บไซต์อื่นๆ ลิงก์เข้ามายังเว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือ บ่งบอกคุณภาพของเว็บไซต์ จุดประสงค์เพื่อให้การจัดอันดับ SEO ของเว็บไซต์ดีขึ้น

ข้อแนะนำ (Tips) สำหรับวิธีการทำ SEO อย่างละเอียด

หลายคนคงเคยได้ยิน การทำ Content เว็บไซต์บน WordPress กันมาบ้างใช่ไหม ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการทำ SEO ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับหน้าแรกของ Google ได้นั้นเอง Tips สำหรับวิธีการทำ SEO อย่างละเอียดด้วย WordPress มีดังนี้ 

• ติดตั้งปลั๊กอิน Yoast SEO

_เป็นเครื่องมือฟรีอย่างหนึ่งที่อยู่บน WordPress ซึ่งสามารถติดตั้งได้ง่ายๆ ด้วยการเข้าไปที่หน้า Dashboard ของเว็บไซต์คุณ เลือกกดปุ่ม Plugins และ ทำการ Add New เพื่อหาปลั๊กอิน จากนั้นทำการ Install เมื่อเรียบร้อยแล้ว ปลั๊กอิน Yoast จะช่วยทำให้การเขียนบทความ SEO ง่ายขึ้น เพราะ จะช่วยบอกถึงประสิทธิภาพของ Keyword และประสิทธิภาพของบทความว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับไหน

• กำหนด Keyword 

เป็นการกำหนดคำหรือคีย์เวิร์ด ที่ตรงกับการค้นหาของลูกค้า จะช่วยทำให้กากรทำ SEO ของเว็บไซต์ติดอันดับของ Google มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ของคูรทำเกี่ยวกับคอร์เรียนออนไลน์ ก็ต้องเลือก Keyword ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนหรือเรียนออนไลน์ เพื่อให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ แต่ถ้าจะให้ Keyword ที่เลือกมาทำ SEO ประสบผลสำเร็จ อาจลอง Keyword Research ดูก่อนว่า ปัจจุบันเขาใช้คำไหนกันบ้าง จะได้เลือกคำที่ตรงกับกลุ่มลูกค้า

สิ่งสำคัญคือ การเขียนชื่อเรื่อง , ย่อหน้า,หัวข้อต่างๆ หรือ Subheading เช่น H1, H2, H3 จำเป็นจะต้องมี Keyword เข้าไปด้วย

• ตั้งชื่อ SEO Title และ Meta description

เป็นการตั้งชื่อเรื่องและย่อหน้าของบทความเว็บไซต์ ที่จะไปปรากฎอยู่บน Google ให้ดึงดูดความสนใจและที่สำคัญ ในการทำ  SEO Title และ Meta description จำเป็นจะต้องมี Keyword อยู่ด้วย จะช่วยเพื่อโอกาสให้ SEO ติดหน้าแรกของ Google มากขึ้น 

• กำหนดความยาวของเนื้อหา

หากเว็บไซต์ของคุณติดตั้งปลั๊กอิน Yoast SEO แล้ว เครื่องมือนี้จะช่วยนับคำในบทความ เพื่อบ่งบอกว่าบทความนี้มีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน โดยปกติแล้วความยาวของเนื้อหาต่อหนึ่งบทความจะต้องมีความยาว 300 คำขึ้นไป 

• กำหนด Slug ให้น่าสนใจ

Slug หรือชื่อของ URL นั้นเอง โดยส่วนใหญ่จะต้องกำหนดชื่อของ Slug เป็นภาษาอังกฤษ ถึงแม้ว่า Keyword ที่ใช้ทำ SEO จะเป็นภาษาไทยก็ตาม เพราะหากตั้งชื่อ Slug เป็นภาษาไทย เวลาที่จะแชร์ลิงก์ URL ออกไปยังช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ลิงก์จะเป็นภาษาต่างดาวและมีความยาวมากจนเกินไป แต่ถ้าหากตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษจะไม่เกิดปัญหานี้ ช่วยเพิ่มความสวยงามให้ URL ของเว็บไซต์น่ากดเข้ามาอ่านมากขึ้น 

• ต้องมี internal link 

เป็นการทำลิงก์จากเนื้อหาบทความที่มีความเกี่ยวข้องกับบทความบนหน้าเว็บไซต์ของคุณ อาจจะบางย่อหน้าของเนื้อหาที่เขียนขึ้นและใส่ลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับประโยคนั้นเข้าไป 

• รูปภาพจะต้องมี Keyword 

WordPress สามารถใส่รูปภาพที่ต้องการเข้าไปในบทความได้ โดยการจะใส่รูปภาพให้มีประสิทธิภาพและช่วย SEO ให้ติดอันดับของ Google นั้น จะต้องใส่ Keyword เข้าไปใน alt ของรูปภาพด้วย เพราะหากไม่ใช่ Google จะไม่สามารถมองเห็นภาพของคุณได้นั้นเอง

‍สนใจปรึกษาบริการด้าน  SEO รวมถึงบริการด้านกลยุทธ์อื่นๆ ของ Criclabs ต้องทำอย่างไร?

การทำ SEO ที่ดี ต้องมีความรู้ด้านเทคนิค วิธีทำ SEO อย่าง ละเอียด โดยเฉพาะ  ควบคู่กับการวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมในแต่ละตลาดและอุตสาหกรรม รวมถึงการให้คำปรึกษา ดูแลวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพัฒนาเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพตลอดเวลา 

Criclabs มีความเชี่ยวชาญในบริการทำ SEO เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจของคุณ มียอดขายโดยเฉพาะ ที่รวมความเชี่ยวชาญด้าน Software Development , ซอฟต์แวร์ Website หรือ Application อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม รวมถึงสร้าง Impact ให้กับธุรกิจของคุณ ช่องทางการติดต่อ Criclabs 

• Website : https://www.criclabs.co/ 
• Facebook : https://facebook.com/criclabs.co
• Instagram : https://www.instagram.com/criclabs.co
• Email : hello@criclabs.co

บริการอื่น ๆ ของ Criclabs

Criclabs เป็น Software House ที่มีความเชี่ยวชาญวิธีทำ SEO อย่าง ละเอียด เพื่อเพิ่มยอดขายและให้คำแนะนำจนถึงการดูแลองค์รวม ไม่ว่าจะเป็น บริการคำ Keyword ,รับทำ Wireframing รับออกแบบ Wireframe แอป เว็บไซต์ รับทำ web development โครงร่างเว็บ ออกแบบและปรับแต่งเว็บไซต์เต็มรูปแบบ, รับพัฒนา web application, บริการสร้างระบบเชื่อมต่อ API, รับศึกษาวิจัยเกี่ยวกับผู้ใช้ User Research, รับทำ QA Design ตรวจสอบดีไซน์เว็บ รวมถึงรับวางกลยุทธ์ให้แบรนด์สินค้า